Away and Back Away and Back

ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง "สไวพท์" เล่าถึงวิตนีย์ วูล์ฟผู้ใช้ความมุ่งมั่นและความฉลาดหลักแหลมฝ่าทางเข้าสู่วงการเทคโนโลยีที่ผู้ชายครองอำนาจ

องค์กรแอฟโฟร-อเมริกันที่ชื่อว่า B.R.O.T.H.E.R.H.O.O.D. กำลังต่อสู้กับองค์กรผิวขาว "The Man" ที่ปกป้องค่านิยมของคนผิวสีในอเมริกาเหนืออย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อนายพลวาร์เรน บัตเวลล์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งชาวแอฟโฟร-อเมริกันแสดงพฤติกรรมแปลกๆ ในแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี Undercover Brother จึงได้รับการว่าจ้างให้ทำงานลับให้กับ "The Man" และสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้สมัครรับเลือกตั้งรายนี้

ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่มิวนิกในปี 1972 วิกฤตการณ์ตัวประกันทำให้ผู้บริหารระดับสูงของทีวีระดับตำนานอย่าง Roone Arledge (Peter Sarsgaard) ต้องจ้างโปรดิวเซอร์รายการกีฬาที่ไม่เคยได้รับการทดสอบมาก่อนอย่าง Geoff Mason (John Magaro) ให้มาปรากฏตัวในข่าวที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ท่ามกลางชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายและผู้คนทั่วโลกที่เฝ้าจับตามอง เหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ซึ่งสร้างจากเรื่องจริง ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารมวลชนไปตลอดกาล

ไนลส์ ยอร์ค มหาเศรษฐีพันล้าน ชาวอังกฤษ บีบบังคับให้ เวย์แลนด์ เจ้าของเดดเรซ ต้องขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ ให้เป็นเหตุให้เวย์แลนด์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกัน ไนลส์ ยอร์ค ก็มุ่งเน้นทำกำไรจากการถ่ายทอสดดเดดเรซ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น และบีบบังคับให้แฟร้งค์เก้นสไตน์ ต้องพ่ายแพ้ในการแข่งขัน ซึ่งครั้งนี้ได้ย้ายไปที่ คาลาฮาริ ในแอฟริกาใต้ แฟรงค์เก้นสไตน์ จะทำอย่างไร เขาจะหนีรอดจากคุกนรกนี้ได้หรือไม่ ติดตามชมในใน เดดเรซ 3!!!