Hostel: Part III นรกรอชำแหละ 3

เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ระบบนิเวศของโลกล่มสลายลง ภาพยนตร์เล่าผ่าน ‘เวสเปอร์’ (ราฟฟิเอลลา แชปแมน) เด็กสาวอายุ 13 ปี ผู้ดื้อรั้นและใช้ทักษะการเอาตัวรอดเพื่อหาอาหารมาประทังชีวิตอยู่ในเศษซากโลกอันแปลกประหลาดและอันตรายร่วมกับ ‘ดาเรียส’ (ริชาร์ด เบรค) พ่อที่ป่วยเป็นอัมพาต เมื่อเวสเปอร์ได้พบกับ ‘คามิเลีย’ (โรซี แมคอีแวน) หญิงสาวลึกลับคนหนึ่ง ผู้โดดเดี่ยวและสับสนจากเหตุการณ์ยานบินตก

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าเซโจแห่งโชซอน ช่วงปี 1455 แนกยอง ที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลขุนนางเก่าที่ล่มสลายไป เข้าเดินทางไปทั่วอาณาจักรเพื่อทำให้ศึกษาศาสตร์โหวงเฮ้ง ทำให้เขามีทักษะประเมินบุคคลิกภาพ สภาพจิตใจ ลักษณะนิสัย รวมทั้งอนาคตของคนได้อย่างน่าทึ่ง เพื่อแค่อ่านสิ่งบ่งบอกจากใบหน้าของพวกเขา แต่เขาก็อยู่อย่างสันโดษกับลูกชายและน้องเขย ซึ่งมีความฝันว่าจะเป็นคนของวังหลวงได้สักวันหนึ่ง แม้ว่าจะแทบไม่มีความเป็นได้เพราะภูมิหลังของชาติตระกูลของเขานั่นเอง

ความรักในการร้องเพลงนำพาหญิงสาวคนหนึ่งเข้าสู่วงการดนตรีที่ต้องแก่งแย่งแข่งขัน ทว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จสายนี้กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและหัวใจที่ร้าวราน

“เทพ” (สุเทพ สีใส) อดีตลูกน้องของ “เสี่ยชู” (นุ้ย เชิญยิ้ม) ผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้านที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย เทพได้ทรยศเสี่ยชูหลังพบหลักฐานการทุจริตและพยายามจะนำหลักฐานเหล่านั้นไปเปิดโปง แต่ถูกตามล่าโดย “ฟู” (ดะ ตลก 6 ฉาก) และ “ติ๊ก” (ติ๊ก ร็อคข้าวปุ้น) ลูกน้องคนสนิทของเสี่ยชู เทพได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มกระเทยที่นำโดย “ลูซี่” (หลุยส์ ชวนชื่น) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “ผู้ใหญ่โย่ง” (โย่ง เชิญยิ้ม) คู่แข่งคนสำคัญของเสี่ยชูที่ลงสมัครนายกอบต.ด้วยเช่นกัน และเมื่อเสี่ยชูรู้ว่าเทพยังไม่ตายจึงสั่งให้ลูกน้องตามล่าอีกครั้งจนเทพเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา หลังจากเทพเสียชีวิตแล้ว วิญญาณของเขาก็ออกมาอาละวาดเพื่อทวงคืนความยุติธรรม