This Is the End วันเนี้ย…จบป่ะ

นักเขียนคนหนึ่งใช้ชีวิตลำพังในกระท่อมกลางหุบเขา เขาทำอาหารตามวิธีที่เคยเรียนรู้จากวัดเซน และดื่มด่ำกับผลิตผลของพืชพรรณจากธรรมชาติ ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวผ่านความงดงามของฤดูกาลทั้งสี่ และพิจารณาอย่างลึกซึ้งว่าอะไรกันแน่คือความรุ่มรวยที่แท้จริง

ในช่วงของราชวงศ์เทียน ทูตจากตงอิ๋งได้วางยาฮ่องเต้ ตั้งใจจะปลดปล่อยชือโหยวเทพอสูรที่ถูกผนึกมานับพันปีเพื่อนำหายนะมาสู่โลก สำนักฉีเหมินที่ปกป้องผนึกถูกปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม ตงกัวผู้อาวุโสพเนจรได้พบกับหลิวจื่อโม่ผู้มีความสามารถโดยบังเอิญและตั้งใจรับเขาเป็นลูกศิษย์ ขณะที่การตามล่าผู้ร้ายของตงอิ๋งเข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ หลิวจื่อโม่และพรรคพวกของเขาก็ทำการต่อต้านอยู่หลายครั้ง ตงกัวเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องหลิวจื่อโม่ให้หนีรอดไปได้อย่างปลอดภัย และฝากแขนที่ใช้เปิดผนึกไว้ที่เขา เมื่อถูกบังคับให้แบกรับภาระอันหนักอึ้งหลิวจื่อโม่จึงออกเดินทางเพื่อฝึกฝน และในขณะเดียวกันก็ตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียด ตงอิ๋งล่อลวงจีหยวนฮุ่ยจื่อใช้โอกาสนี้เพื่อปลดปล่อยชือโหยว ท้องฟ้าเปลี่ยนสี สายลมโหมกระหน่ำ และการต่อสู้ที่สิ้นหวังก็ได้ดำเนินต่อไป

แม่ผู้เหนื่อยล้าตัดสินใจฮึดสู้เพื่อเยียวยาความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยพาสมาชิกทุกคนออกเดินทางไปชมการแข่งขันเต้นโพลแดนซ์ของลูกสาว

ไมลส์ แมสซีย์ ทนายชั้นเซียนที่ว่าความคดีไหนก็ชนะได้แบบไม่เกี่ยงวิธี และลูกความคนล่าสุดของเขาคือ เร็กซ์ เร็กซ์ร็อธ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่โดนภรรยานามว่าแมริลีน ฟ้องหย่า หลังจากจับได้คาหนังคาเขาว่าเร็กซ์ไปมีอีหนู แต่ทีนี้ไมลส์ก็ไม่ยอมแพ้ หาทางว่าความเพื่อเอาชนะให้ได้ทุกวิถีทาง และขณะเดียวกันเขาก็ชักจะแอบชอบแม่สาวจอมแสบแมริลีนคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยหารู้ไม่ว่าแมริลีนร้ายกว่าที่เขาคิด และเขาก็กำลังจะตกหลุมแม่สาวนักตกทองคนนี้เข้าให้แล้ว